ทำความรู้จักกับครอบครัว คาร์เดเชียน และเจนเนอร์

ทำความรู้จักกับครอบครัว คาร์เดเชียน และเจนเนอร์

เชื่อว่าถ้าใครเป็นแฟนคลับตะวันตกอยู่แล้ว คงรู้จัก คาร์เดเชียน สองตระกูลนี้อย่างแน่นอน อาจจะงงว่า ทำไมเหรอ ตระกูลนี้เขาเป็นอะไรกัน? แล้วเป็นใครกัน ? คำตอบง่ายๆ สรุปสั้นๆได้ใจความคือเป็นตระกูลดาราดังของฮอลลีวู้ด ที่ทั้งสองตระกูลนี้ลูกสาวมีแม่คนเดียวกัน แต่คนละพ่อ ชื่อเสียงก็ดังมากกกก ทั้งด้านบวกและลบก็ว่ากันไป แต่วันนี้เราจะมาชมภาพกันว่าสองตระกูลนี่ใครเป็นใครกันบ้าง

Kris Jenner (คริส เจนเนอร์)

Kris Jenner (คริส เจนเนอร์)

ถ้าต้องยกหนึ่งบุคคลที่ทำให้ตระกูลคาร์ดาเชียนและเจนเนอร์ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ได้ก็ต้องยกให้คริส เจนเนอร์ คุณแม่และผู้จัดการใหญ่ของทุกคน สมาชิกคนไหนจะทำอะไร ไปอีเวนต์ไหน เซ็นสัญญาอะไร ก็ต้องผ่านผู้หญิงคนนี้หมด (เธอได้ส่วนแบ่ง 10% จากทุกโปรเจกต์ที่ลูกๆ ทำ)

คริสถือได้ว่ามีฝีมือในด้านการตลาดตั้งแต่ช่วยให้สามีเก่า บรูซ เจนเนอร์ (ตอนนี้คือเคทลิน เจนเนอร์) กลับมามีชื่อเสียงในฐานะนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในยุค 90s และเมื่อรายการทีวีเริ่มโด่งดัง เธอก็ได้ก่อตั้งบริษัท Jenner Communications ที่ดูแลทุกส่วนของตระกูลนี้ ทุกวันนี้สมาชิกแต่ละคนจะมีผู้ช่วยและทีมงานเป็นของตัวเอง โดยมีคริสเป็นคนดูภาพรวมและเป็นคนดีลเรื่องการเซ็นสัญญากับโปรเจกต์ใหญ่ๆ เช่น แอปพลิเคชันของลูกสาวทุกคน หรือการต่อสัญญารายการ Keeping Up with the Kardashians

Kourtney Kardashian (คอร์ทนีย์ คาร์เดเชียน)

Kourtney Kardashian (คอร์ทนีย์ คาร์เดเชียน)

ถึงแม้จะมีชื่อเสียงน้อยสุดในบรรดาลูกสาวทั้งหมด 5 คน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคอร์ตนีย์ คาร์ดาเชียน จะเลือนหายไปไหน เพราะในรายการเธอก็มักได้แอร์ไทม์กับเรื่องราวความรักคาราคาซังกับแฟนเก่าและพ่อของลูกๆ 3 คนอย่างสก็อตต์ ดิซิก เป็นประจำ และมีซีรีส์ spin-off ทั้ง Kourtney & Kim Take New York และ Kourtney & Khloe Take Miami โดยด้านธุรกิจ เธอก็เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ความงาม Manuka Doctor ของประเทศนิวซีแลนด์ และยังเป็นเสาหลักในการดูแลธุรกิจร้านเสื้อผ้า Dash ที่ทำร่วมกับน้องสาวอย่างคิมและโคลอี้อีกด้วย

Kim Kardashian (คิม คาร์เดเชียน)

Kim Kardashian (คิม คาร์เดเชียน)

ราชินีของตระกูลนี้ก็ต้องยกให้คิม คาร์ดาเชียน เวสต์ ที่ทุกวันนี้ยังคงมีข่าวให้อัพเดตกันทุกวินาที และกลายเป็นนักธุรกิจพันล้านภายในชั่วพริบตา (แม้จะโดนกระแสต่อต้านว่าไม่มีความสามารถ) นอกเหนือจากการเป็นสมาชิกหลักของรายการทีวีแล้ว เธอยังหันมาเอาดีด้านเทคโนโลยีกับเกม Kim Kardashian: Hollywood ที่ทำร่วมกับบริษัท Glu Mobile

ซึ่งสามารถทำเงินได้มากกว่า 70 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 6 เดือนแรกที่ปล่อยออกมา (จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่คิมได้รับส่วนแบ่งยังไม่มีการเปิดเผย) อีกหนึ่งความสำเร็จล่าสุดก็คือแบรนด์ความงาม KKW Beauty และการเป็นอีกหนึ่งสไตล์ไอคอนของยุคที่ได้ขึ้นปกนิตยสารเป็นประจำ ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับสามี คานเย เวสต์ ที่มีเส้นสายในวงการแฟชั่น และทำให้คิมเป็นที่ยอมรับมากขึ้น

Khloe Kardashian (โคลอี้ คาร์เดเชียน)

Khloe Kardashian (โคลอี้ คาร์เดเชียน)

โคลอี้ คาร์ดาเชียน น่าจะเป็นสมาชิกที่เราได้เห็นวิวัฒนาการมากที่สุดตลอด 10 ปี และเป็นคนโปรดของหลายๆ คนด้วยอารมณ์ขันของเธอ โดยในช่วงปีแรกๆ ของรายการเธอมักถูกมองว่าเป็นลูกสาวที่อวบอั๋นที่สุดและมีปัญหารุมเร้าอยู่ตลอด

โดยเฉพาะกับอดีตสามี ลามาร์ โอดอม ที่ติดยาและเคยมีอาการโคม่า แต่ในสองปีให้หลังโคลอี้ก็ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูฟิตแอนด์เฟิร์ม มีคอลเล็กชันกางเกงยีนส์ Good American ที่ทำเงินมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐในวันแรกที่วางขาย และยังมีรายการเป็นของตัวเอง Revenge Body with Khloé Kardashian ทางช่อง E! ซึ่งกำลังจะมีซีซันใหม่เร็วๆ นี้

Rob Kardashian (ร็อบ คาร์เดเชียน)

Rob Kardashian (ร็อบ คาร์เดเชียน)

 เป็นอีกหนึ่งสมาชิกที่กำลังผ่านมรสุมชีวิตอันหนักหน่วงและยาวนานหลายปี สำหรับร็อบ คาร์ดาเชียน ลูกชายคนเดียวของตระกูลที่ตอนแรกเป็นคนโปรดของสาวๆ หลายคนเพราะรูปร่างหน้าตา แต่พักหลังร็อบกลับมีปัญหาขาดความมั่นใจ น้ำหนักเกิน และปัญหากับอดีตแฟนสาว แบล็ก ไชน่า ที่กำลังขึ้นศาลฟ้องร้องกันอยู่ (ทั้งคู่เคยทำเรียลิตี้โชว์ด้วยกันชื่อ Rob & Chyna นอกจากนี้ร็อบก็ยังมีธุรกิจถุงเท้า แบรนด์ Arthur George ที่ไปได้ดีทีเดียว และมีขายในห้างดังอย่าง Nordstorm อีกด้วย

Caitlyn Jenner หรือชื่อเก่าคือ Bruce Jenner (เคทลิน/บรูซ เจนเนอร์)

Caitlyn Jenner หรือชื่อเก่าคือ Bruce Jenner (เคทลิน/บรูซ เจนเนอร์)

เป็นสมาชิกที่มีอายุมากที่สุด แต่ก็เป็นสมาชิกใหม่ที่สุดของรายการเช่นกัน (ถ้านับตามชื่อใหม่) สำหรับเคทลิน เจนเนอร์ ที่ 8 ปีแรกของรายการผู้ชมจะรู้จักเขาในฐานะบรูซ เจนเนอร์ ก่อนที่ในปี 2015 เขาได้หย่ากับคริสและตัดสินใจออกมาประกาศว่าตนเองเป็นผู้หญิงข้ามเพศในรายการ 20/20 ของพิธีกร ไดแอน ซอว์เยอร์

และขึ้นปกนิตยสาร Vanity Fair ที่สร้างความฮือฮาจนเคทลินกลายเป็นบุคคลที่มีคนตาม 1 ล้านคนในทวิตเตอร์เร็วที่สุดภายใน 4 ชั่วโมง ซึ่งเอาชนะบารัก โอบามา ต่อมาเคทลินก็ได้ออกไลน์เครื่องสำอางกับ M.A.C, หนังสืออัตชีวประวัติ, และเรียลิตี้โชว์ชื่อ I Am Cait ออกมา

Kendall Jenner (เคนดัล เจนเนอร์)

Kendall Jenner (เคนดัล เจนเนอร์)

ไม่ว่าจะเป็นรันเวย์ของ Chanel หรือป้ายโฆษณาเครื่องสำอาง Estée Lauder เราจะเห็นหน้าของเคนดัลล์ เจนเนอร์ สมาชิกที่เลือกเอาดีในวงการแฟชั่น ซึ่งเธอก็รุ่งสุดๆ ในฐานะนางแบบที่ทรงอิทธิพลของยุคอีกคนหนึ่ง หลังเดินบนรันเวย์ Marc Jacobs เป็นที่แรก และต่อมาก็กวาดแคมเปญโฆษณาเป็นว่าเล่น นิตยสาร Forbes ยังจัดให้เคนดัลล์เป็นนางแบบทำเงินอันดับ 3 ประจำปี 2016 กับรายได้ต่อปีมากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังไม่รวมรายได้จากรายการทีวีและการไปโชว์ตัวตามงานต่างๆ

Kylie Jenner (ไคลี่ย์ เจนเนอร์)

Kylie Jenner (ไคลี่ย์ เจนเนอร์)

 แม้จะเป็นลูกคนเล็กสุดของตระกูล แต่ความสำเร็จของไคลี เจนเนอร์ ถือว่ากำลังทะยานสู่อันดับหนึ่งของครอบครัว เพราะภายใน 18 เดือน ธุรกิจเครื่องสำอาง Kylie Cosmetics ที่เธอลงทุนเองทั้งหมดก็ทำเงินไปแล้ว 420 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการคาดการณ์ว่าจะถึงพันล้านภายในอีกแค่ 5 ปี! (ซึ่งถ้าเทียบกับแบรนด์ดังอย่าง Bobbi Brown ก็ยังใช้เวลาประมาณ 20 ปี) โดยอีกหนึ่งธุรกิจของเธอก็คือไลน์เสื้อผ้า Kendall + Kylie ที่ทำร่วมกับพี่สาว ซึ่งก็มีขายตามห้างดังทั่วโลก เช่น Neiman Marcus

ความเป็นมาของครอบครัวคาร์เดเชียน เจนเนอร์

มาเข้าใจความเป็นมาของครอบครัวนี้ก่อน ตระกูลคาร์ดาเชียนเริ่มเป็นที่รู้จักในปี 1994 หลังโรเบิร์ต จอร์จ คาร์ดาเชียน (พ่อของสาวๆ ตระกูลคาร์ดาเชียน) เป็นเพื่อนสนิทและทนายความในคดีแห่งยุค 90s ของนักอเมริกันฟุตบอล โอ.เจ. ซิมป์สัน ที่โดนข้อหาฆ่านิโคล บราวน์ ภรรยาของตัวเอง ซึ่งเขารอดมาได้ และแม้ต่อมาครอบครัวนี้จะเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมฮอลลีวูด แต่พวกเขาก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย

     พอช่วงปี 2005 คิม คาร์ดาเชียน ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะเพื่อนสนิทของไฮโซสาว ปารีส ฮิลตัน และเป็นสไตลิสต์ให้เหล่าดาราเซเลบ แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 เธอดัน (หรือตั้งใจ?) มีเซ็กซ์เทปที่ถ่ายกับแฟนหนุ่ม เรย์ เจ ซึ่งคิมมีการฟ้องร้องค่าย Vivid Entertainment และยุติคดีโดยได้เงินไกล่เกลี่ยมา 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (และยังคงได้ค่าลิขสิทธิ์ทุกปี)

     8 เดือนต่อมา คิมพร้อมครอบครัวคาร์ดาเชียนและเจนเนอร์ก็ประกาศจัดทำเรียลิตี้โชว์แนว ‘Docuseries’ ชื่อ Keeping Up with the Kardashians ทางช่อง E! Entertainment ที่อยู่ภายใต้ NBC Universal และมี Comcast เป็นบริษัทพ่อ โดยรายการนี้ได้พิธีกรเบอร์หนึ่งของวงการอย่างไรอัน ซีเครสต์ มาร่วมทำกับบริษัท Bunim/Murray Productions

และให้คริส เจนเนอร์ คุณแม่ของสาวๆ (และคนที่ขายคอนเซปต์รายการนี้) ครองตำแหน่ง Executive Producer อีกด้วย ซึ่งหมายความว่าทางครอบครัวจะเป็นผู้ควบคุมการตัดต่อของทุกตอน

คอนเซปต์หลักของรายการ Keeping Up with the Kardashians คือการติดตามชีวิตในแต่ละวันของ 8 สมาชิกในครอบครัว เริ่มด้วยคอร์ตนีย์, คิม, โคลอี้ และร็อบ คาร์ดาเชียน รวมถึงคริส, เคนดัลล์, ไคลี และบรูซ เจนเนอร์ (นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกที่ตอนหลังแปลงเพศเป็นเคทลิน เจนเนอร์ ในปี 2015) ซึ่งการตลาดของรายการนี้ถูกวางให้เหมือนซีรีส์ในตำนานเรื่อง The Brady Bunch ผสมผสานความบ้าบอของเรียลิตี้โชว์ The Osbournes ของช่อง MTV โดยรายการ Keeping Up with the Kardashians ใช้คิมเป็นสมาชิกหลักของรายการในช่วงแรก แต่ต่อมาคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น

     กราฟความสำเร็จของรายการถือว่าพุ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ได้มีเรตติ้งสูงปรี๊ดสุดๆ ในช่วงแรก แต่เป็นการสร้างให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการทำโปรเจกต์และรายการ spin-off ต่างๆ เพื่อให้ชื่อเสียงของตระกูลยังอยู่ในกระแสตลอด เช่น รายการพิเศษงานแต่งงานของคิมกับนักบาสเกตบอล คริส ฮัมฟรีย์ ที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยุติลงภายใน 72 วัน และนั่นกลับทำให้ตระกูลคาร์ดาเชียนดังขึ้นสุดๆ

     มาถึงปี 2017 รายการ Keeping Up with the Kardashians ก็ก้าวเข้าสู่ซีซันที่ 14 และถึงแม้เรตติ้งจะเริ่มลดลง แต่ชื่อเสียงของตระกูลนี้ก็ยังดังอย่างถล่มทลาย และมีการสร้างรูปแบบธุรกิจที่ถือว่าครบวงจรและไม่เคยมีครอบครัวไหนในฮอลลีวูดเคยทำได้

รู้จัก ทาโก้ อาหารเม็กซิกันที่กินกันทั่วโลก ‘ทาโก้’ เป็นเสมือนสัญลักษณ์หนึ่งที่แสดงให้เห็น ถึงอาหารการกินแบบเม็กซิกันชน ซึ่งถ้าหากมองลึกลงไปเราจะพบว่าอาหารจานนี้คือตัวแทนของวัฒนธรรมที่บ่งบอกรากฐานทางสังคมของประเทศเม็กซิโกได้เป็นอย่างดี

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : 5 คู่จิ้นวายไทย ที่ท่านต้องรู้จัก